วันอาทิตย์, ตุลาคม 30, 2548
วัดธรรมอุทยาน
อายุ 36 บวช หรือมีเมีย คงไม่มีแรงแล้ว
กิเลส นิพพานอยู่ที่ใจ ไม่ใช่สถานที่
ทำผิดไปเรื่อยๆ อ.กำพล
วันศุกร์, ตุลาคม 28, 2548
goto khonkaen
http://managerroom.com/board/viewtopic.php?t=3460
วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 27, 2548
ฝ่าขีดจำกัดของตนเอง ( พันโทอานันท์ ชินบุตร) business.com
-- การบรรลุความสำเร็จไม่ได้เกิดจากปาฎหารย์ใดๆ ยกเว้นว่าคุณคิดเช่นนั้น มันอยู่ที่พลังสองตัวคือ
พลังแห่งความคิดและพลังแห่งการกระทำ ซึ่งรวมกันเป็นพลังแห่งตน เมื่อใดที่คุณใช้พลังแห่งตนเต็มที่
ความสำเร็จก็ตามมา
คุณต้องคิดและกระทำให้เต็มศักยภาพของคุณ เมื่อคุณใช้ศักยภาพที่รู้จักก่อน ศักยภาพที่ไม่รู้จักก็จะตามมา
คุณจะสลัดทิ้งข้อจำกัดและข้ออ้างทั้งหลายที่ขวางกั้นและฉุดรั้งคุณไว้ เมื่อคุณมุ่งความรู้สึกไปที่ "ทำไม" คุณถึงเกิดพลังขับเคลื่อน เมื่อคุณเคลื่อนที่ก็จะเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ
บอกตัวเองทุกวัน ทุกเวลาว่า "ฉันทำได้"
แม้จะต้องเริ่มต้นด้วยการโกหกตัวเอง แต่ก็เป็นการ "โกหกตัวเองสู่ความสำเร็จ"
พลังข้ออ้างและข้อจำกัดมีพลังเหนือพลังแห่งตนของคุณอยู่หรือ ? ถ้าเช่นนั้นคุณต้องเริ่มฝึกมองเห็นและรู้สึกในใจทุกวันและทุกเวลาที่มีโอกาส ว่าตัวเองกำลังทำได้สำเร็จ
ใช่แล้ว คราวนี้คุณโกหกตัวเองด้วย "ภาพ" และ"ความรู้สึก" เสริมเข้าไปกับการโกหกตัวเองด้วย"คำพูด" ที่ว่า ฉันทำได้ เมื่อคำพูด ภาพ และความรู้สึกมารวมกัน
ก็จะกลายเป็นเป้าหมายให้จิตใต้สำนึกพาตัวคุณไปสู่ความสำเร็จเช่นนั้น
ในตอนที่คุณโกหกตัวเองจำเป็นเหลือเกินที่คุณต้องไม่สงสัยใดๆ และโกหกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ดีเอง พลังแห่งการโกหกตัวเองเช่นนี้จะได้ชัยชนะ
เหนือพลังข้ออ้างและข้อจำกัดที่สมองพยายามขัดขวางและเหนี่ยวรั้งคุณไว้ให้คงอยู่ในความสบายเดิมๆ
พลังแห่งการคิดและการกระทำเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำให้คุณไกลเกินความเชื่อที่กำลังจำกัดให้คุณอยู่กับที่ ต้องการให้คุณเป็นคนป่วยไร้เรี่ยวแรงอยู่แต่บนเตียงคนไข้มีคน
มาคอยป้อนน้ำและอาหาร
การลงมือปฏิบัติเยียวยาทุกสิ่ง
--- คุณอาจถามตัวเองว่า .... ก็ฉันจะปฏิบัติได้อย่างไรในเมื่อฉันกำลังกลัว ....ฉันไม่เคยทำมาก่อน หรือว่ามันเป็นเช่นนั้น เช่นนี้ ... คุณรู้หรือไม่ว่าเสียงที่ถามคือเสียงของใคร ?
แน่นอนมันคือเสียงของ "มาร" คือเสียงของ "ไอ้ตัวลบ" ที่สิงสู่อยู่ในตัวคุณ คุณจะปล่อยให้มันมีพลังเหนือคุณอยู่อย่างนั้นหรือ
คุณต้องเริ่มสตาร์ทเครื่อง ใส่เกียร์ เหียบคันเร่ง แม้ว่าจะหนัก แต่คุณต้องเริ่มออกตัว การก้าวไปข้างหน้าแม้เพียงนิ้วเดียวก็เท่ากับการก้าวหน้าแล้ว
เมื่อคุณเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ อย่าลืมโกหกตัวเองตลอดเวลาด้วยคำพูด ภาพ และความรู้สึก เสียงที่กำลังค้านคุณจะพร่ามัวหรือถูกแทนที่ไปเอง
เมื่อคุณเคลื่อนที่ไปได้แม้แต่หนึ่งนิ้วให้คุณชมเชยตัวเองทั้งในใจและนอกใจ คุณต้องเฉลิมฉลองราวกับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ เหมือนที่นีล อาร์มสตรอง นักบินอวกาศคนแรกที่ไป
ลงเหยียบบนผิวดวงจันทร์รายงานกลับมายังโลกว่า " A Small Step of a Man, A Giant Leap of mandkind" "หนึ่งก้าวเล็กๆชองมนุษย์ คือก้าวกระโดดยักษ์ของมนุษย์ชาติ"
รอยเท้าของมนุษย์ที่เหยียบบนลูกรังธรรมดามันไร้ค่าสิ้นดี แต่ถ้าคุณสามารถประทับรอยไว้บนดวงจันทร์นั้นมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงใช่ไหมล่ะ ? การก้าวไปหนึ่งนิ้วของคุณก็เปรียบได้ดั่ง
ก้าวกระโดดยักษ์ของชีวิตที่เกิดจากขุมพลังที่ใส่ลงไป เป็นพลังแห่งความคิดและพลังแห่งการกระทำที่คุณลากตัวเองหนีแรงดึงดูดของมารร้ายของความป่วยที่ต้องการให้คุณอยู่ที่เดิม
จงรู้อย่างแน่ชัดว่าดวงจันทร์ของคุณอยู่ที่ไหน มันคืออะไร ใช้พลังแห่งตนลาก ดึง ดัน ไปจนกว่าจะคล่องตัว เรียนรู้และปรับแก้ไประหว่างทาง คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมดหรือมั่นใจ
อย่างเต็มเปี่ยมแล้วถึงจะเริ่มทำอะไร อยู่ที่การออกตัวไปข้างหน้าครั้งแรกต่างหาก ที่เหลือก็ง่าย ความมั่นใจจะมีมากขึ้น เพราะมันเกิดโมเมนตัมหรือแรงส่งหนุนที่เกิดทักษะและประสพการณ์
เกิดความรู้ เกิดความอุตสาหะที่จะทำและรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติม ความสามารถของคนเราไม่ได้เติบโตแบบเลขยกกำลัง กล่าวคือทวีตัวรวดเร็วและมากขึ้นเรื่อยๆ จงกระทำอย่างที่ประธานาธิบดี
ธีโอดอร์ รูสเวลท์ กล่าวไว้นั่นคือ "ทำที่ทำได้ ด้วยสิ่งที่มี ณ ที่ที่คุณอยู่นั่นแหละ" แล้วทุกอย่างจะเติมเต็มเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะใหม่ ไอเดียใหม่ ผลลัพธ์ใหม่ๆ
จะผ่านเข้ามาเอง และจะสะสมอยู่ในตัวคุณ เพื่อแปลงสภาพคุณไปเป็นบุคคลที่สมควรจะได้รับผลลัพธ์ดีๆ ขึ้นเรื่อยๆ
แบบฝึกหัดลงมือปฎิบัติ
----มีอะไรบ้างที่คุณต้องทำในกิจวัตรประจำวันและรู้ว่าถ้าทำแล้วชีวิตจะดีขึ้น เลือกมาหนึ่งอย่างแล้วเริ่มทำจากจุดเล็กๆ เช่น หากคุณจะต้องจัดโต๊ะทำงานเพื่อทำให้สมองปรอดโปร่ง
ก็จัดการเก็บและจัดมันซะเลย
---มีอะไรบ้างที่สำคัญขึ้นกว่าเดิม และเป็นความฝันของคุณ เช่นเป็นจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ ให้คุณเริ่มต้นด้วยการหาประวัติของคนเหล่านั้นมานั่งอ่าน ไปซื้อเครื่องวาดภาพเล็กๆน้อยๆ
หาสมุดสอนวาดภาพมาเลียนแบบทำตาม เข้าฝึกอบรม เข้าหากลุ่มจิตรกร แล้วก็หาเวลาทำมากขึ้นเรื่อยๆ จากน้อยไปมาก เป็นต้น
---โกหกตัวเอง ด้วยคำพูด ภาพ (ทั้งที่หลับตาเห็นและลืมตาเห็น) และความรู้สึก วันละหลายๆหน
วันอังคาร, ตุลาคม 25, 2548
ธรรมจาริก
ได้อะไรมาจากหลวงพ่อประสิทธ์
ให้ไปคิดมาดีๆ ฆราวาสตายปล่าวไม่ได้อะไร เป็นทาสเลี้ยงลูกมาหลายปี ไม่อยากให้คนอื่นเป็นทาสเขา
หลวงพี่พีระพล
โกวิทกำลังสับสนว่าจะอยู่หร
ได้อะไรมาจากหลวงพ่อปราโมทย์
ก่อนไปทดสอบไฟฉายแล้วหลอดขาด ต้องไปยืมของโล่
เหมือนเป็นลางว่าของตนเองจะไม่ม
ต้องมีข้อวัตรปฏิบัติด้วย สวดมนต์นั่งสมาธิ
จิตแข็งๆ เผลอคิดไป เหม่อ รู้ตัวไหม
ทำมาสองปีไม่ได้ทำอะไรมาเลย แล้วจะมาขอการบ้านใหม่
ให้เลือกกรรมฐานที่เหมาะสมมา
มีงานวิจัยแล้วทำงานเพียง 4 ชม ที่เหลือเรามาตามรู้ได้
ทำงานใช้ความคิดเจริญสติไม่ได้ เพราะตัดความคิดทำให้ทำงานไม่ได้ ให้ทำงานไปเดี๋ยวโดนไล่ออก
เดินจงกรมสร้างจังหวะแล้วสบายอกส
การทำอนุปัสนาคือการตามรู้
ของโล่ ดีแล้ว ใช้ได้แล้ว ถูกต้องแล้ว สาธุ
วันอังคาร, ตุลาคม 11, 2548
เร็ว คม ลับ ตัด เผา แห้ง
ต่อไปจะขึ้นทางด่วน ถ้าเหนื่อยจะลับมีด ---->fail
วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 06, 2548
มหาชนก
วันอังคาร, ตุลาคม 04, 2548
ข้อสงสัยที่มี
มาอยู่ที่นี่ ผมพอไปได้หรือไม่ครับ
ทำทานมาเป็นทุนพอหรือยังครับ
กรรมฐานที่เหมาะกับผมคืออะไรครับ
เอาแบบเร็วๆ ที่สุด
ทำงานไปด้วย ปฏิบัติไปด้วย ดีหรือเปล่า ช้าหรือเร็ว เมื่อเทียบกับการมาทำที่วัด
เลิกเล่นเกม ทำไมไปติดการนอน ฝนใหญ่มาไล่งูขี้เซา
ปลูกสติ อุตสาห์พิทักษ์รักษาไว้ ชื่นช่อชูใบปลูกเจ้าไว้หวังชมเชย
ภาวะที่ดูนี่เป็นมรรค เป็นพรหมจรรย์ ถ้าเปรียบกับทางก็เป็นทางด่วนที่ราบเรียบ กามราคะ (ความกำหนัดในกาม) ปฏิฆะ (ความหงุดหงิดขัดเคือง) มานะ (ความถือตัว) ทิฐิ (การยึดถือความคิดเห็นว่าเป็นจริง) ที่เคยมีเคยเป็น ก็ได้เหี่ยวแห้งไป เปรียบคล้ายผลไม้ที่แห้งติดคาต้น เกิดความบริสุทธิ์ เป็นศีลอันยิ่ง เป็นสมาธิอันยิ่ง เป็นปัญญาอันยิ่ง เป็นศีลขันธ์ เป็นสมาธิขันธ์ เป็นปัญญาขันธ์ มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ เหมือนกับแต่ก่อนเราขับรถอยู่บนเส้นทางที่มีหลุมขรุขระ กระต้วมกระเตี้ยมอยู่ แต่พอเป็นเส้นทางราบเรียบ มันวิ่งได้คล่องไม่ติด วิ่งผ่านได้ตลอด
ลพ.คำเขียน
วันอาทิตย์, ตุลาคม 02, 2548
i am sick
วันเสาร์, ตุลาคม 01, 2548
google map
www.google.co.th
www.gmail.com
www.manager.co.th
www.kitty.in.th
http://www.google.com/ig
chonburi
http://www.truelife.com/login.php
diff
ตื่น 11:30
จะทำมั้ยเล่า...ถ้าทำจริง ก็ได้จริง” นี้เป็นคำพูดเชิงท้าให้ปฏิบัติธรรมที่จะได้ยินเสมอจากหลวงปู่ทา จารุธมฺโม อายุ 94 ปี อายุพรรษา 61 พรรษา วัดถ้ำซับมืด อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
อย่าเผลอไปในกิจการงานผู้อื่นโดยส่วนเดียว ให้
เหลียวแลกิจการงานของตนด้วย เอาอย่างแม่โคคอยเลี้ยง
ลูกอ่อน ตาก็สำเหนียกคอยดูลูก คอยระวังป้องกันรักษาภัย
ทั้งปากก็กัดหญ้าเคี้ยวกลืนเรื่อยร่ำไป ทั้งท้องของตนก็อิ่ม
ทั้งลูกของตนก็พ้นภัย การเจริญศีล เจริญธรรมเป็นหน้าที่
ส่วนของตน ขอจงอย่าละเลย
ต้องอดทน . . . ให้พยายามเข้า
มันก็เป็นของยากนั่นแหละ . . . ของดีมันก็ยาก
พระพุทธเจ้าท่านก็วางไว้ให้พวกเราหมดแล้ว . . .
ทำกับข้าวไว้ให้พวกเราหมดแล้ว . . . จะกินหรือไม่กิน . . .
ถ้าไม่กินก็ท้องแห้ง ถ้ากินก็อิ่ม. . .
ทำอะไร ไม่ได้หลับได้นอน
TO DO TODAY or TO DIE
ซักผ้า ---- 30 min done
ดูดผุ่น
ถูบ้าน เก็บของ ---- 20 min done
เดินจงกรม3000/ 3 ล้านก้าว แบบต่อเนื่อง
ให้แปลงเวลาเป็นบุญ
ใบไม้ร่วงปลิว พลิ้วตามลมไหว บางสิ่งผ่านไป ไม่อาจกลับคืน
่