วันพุธ, พฤศจิกายน 22, 2549
บทปลงสังขาร
บทปลงสังขาร (แบบโบราณ)
มนุษย์เราเอย .......... เกิดมาทำไม
นิพพานมีสุข .......... อยู่ใยมิไป
ตัณหาหน่วงหนัก .......... หน่วงชักหน่วงไว้
ฉันไปมิได้ .......... ตัณหาผูกผัน
ห่วงนั้นพันผูก .......... ห่วงลูกห่วงหลาน
ห่วงทรัพย์สินศฤงคาร .......... จงสละเสียเถิด
จะได้ไปนิพพาน .......... ข้ามพ้นภพสาม
ยามหนุ่มสาวน้อย .......... หน้าตาแช่มช้อย
งามแล้วทุกประการ .......... แก่เฒ่าหนังยาน
แต่ล้วนเครื่องเหม็น .......... เอ็นใหญ่เก้าร้อย
เอ็นน้อยเก้าพัน .......... มันมาทำเข็ญใจ
ให้ร้อนให้เย็น .......... เมื่อยขบทั้งตัว
ขนคิ้วก็ขาว .......... นัยน์ตาก็มัว
เส้นผมบนหัว .......... ดำแล้วกลับหงอก
หน้าตาเว้าวอก .......... ดูหน้าบัดสี
จะลุกก็โอย .......... จะนั่งก็โอย
เหมือนดอกไม้โรย .......... ไม่มีเกสร
จะเข้าที่นอน .......... พึงสอนภาวนา
พระอนัจจัง .......... พระอนัตตา
เราท่านเกิดมา .......... รังแต่จะตาย
ผู้ดีเข็ญใจ .......... ก็ตายเหมือนกัน
เงินทองทั้งนั้น .......... มิติดตัวเรา
ตายไปเป็นผี .......... ลูกเมียผัวรัก
เขาชักหน้าหนี .......... เขาเหม็นซากผี
เปื่อยเน่าพุพอง .......... หมู่ญาติพี่น้อง
เขาหามเอาไป .......... เขาวางลงไว้
เขานั่งร้องไห้ .......... แล้วกลับคืนมา
อยู่แต่ผู้เดียว .......... ป่าไม้ชายเขียว
เหลียวไม่เห็นใคร .......... เห็นแต่ฝูงแร้ง
เห็นแต่ฝูงกา .......... เห็นแต่ฝูงหมา
ยื้อแย่งกันกิน .......... ดูน่าสมเพช
กระดูกกูเอ๋ย .......... เรี่ยรายแผ่นดิน
แร้งกาหมากิน .......... เอาเป็นอาหาร
เที่ยงคืนสงัด .......... ตื่นขึ้นมินาน
ไม่เห็นลูกหลาน .......... พี่น้องเผ่าพันธุ์
เห็นแต่นกเค้า .......... จับเจ่าเรียงกัน
เห็นแต่นกเสก .......... ร้องแรกแหกขวัญ
เห็นแต่ฝูงผี .......... ร้องไห้หากัน
มนุษย์เราเอ๋ย .......... อย่าหลงกันเลย
ไม่มีแก่นสาร .......... อุตสาห์ทำบุญ
ค้ำจุนเอาไว้ .......... จะได้ไปสวรรค์
จะได้ทันพระเจ้า .......... จะได้เข้าพระนิพพาน
อะหัง วันทามิ สัพพะโส นิพพานะปัจจะโย โหตุ
--------------------------------------------------------------------------------
บทปลงสังขาร (แบบสมัยใหม่)
มนุษย์เราเอ๋ย .......... เกิดมาทำไม
นิพพานมีสุข .......... หมดทุกข์มิไป
ตัณหาหน่วงหนัก .......... คอยชักหน่วงไว้
ฉันไปไม่ได้ .......... ตัณหาผูกพัน
ห่วงนั้นพันผูก .......... ห่วงลูกห่วงหลาน
ห่วงทรัพย์สินศฤงคาร .......... สละมันเถิด
ชีวิตประเสริฐ .......... หยุดเกิดนิพพาน
ข้ามพ้นสังขาร .......... ละสังขารไป
ยามเมื่อหนุ่มสาว .......... รูปเจ้าก็งาม
แก่ลงงุ่มง่าม .......... ไม่งามตรงไหน
เอ็นใหญ่เก้าร้อย .......... เอ็นน้อยเก้าพัน
ช่วยยึดสังขาร .......... ของท่านเอาไว้
หนาวมากร้อนมาก .......... ก็อยากจะตาย
ต้องกินต้องถ่าย .......... วุ่นวายทั้งวัน
ขนคิ้วก็ขาว .......... ตาเจ้าก็มัว
เส้นผมบนหัว .......... หงอกทั่วถึงกัน
จะลุกก็โอย .......... จะนั่งก็โอย
เหมือนดอกไม้โรย .......... โอดโอยสังขาร
พึงเร่งภาวนา .......... อย่าช้าเร็วพลัน
ให้เห็นสังขาร .......... เราท่านเกิดมา
เป็นอนิจจัง .......... ทุกขังอนัตตา
สร้างแต่ปัญหา .......... พาให้ทุกข์ทน
ชีวิตร่างกาย .......... ต้องตายเป็นผี
ลูกผัวที่มี .......... เขาหนีสับสน
เปื่อยเน่าพุพอง .......... พี่น้องทุกคน
เขาช่วยกันขน .......... ร่างตนเอาไป
พวกญาติพี่น้อง .......... หามล่องสู่เมรุ
ลำบากยากเข็ญ .......... ร่างเหม็นหนอนไช
ต้องถูกไฟไหม้ .......... ย่างบนกองฟอน
เป็นที่แน่นอน .......... เมื่อตอนเจ้าตาย
โลภโมโหสัน .......... ของฉันของแก
สิ่งใดไหนแน่ .......... เที่ยงแท้ไฉน
ทรัพย์สินเงินทอง .......... เป็นของนอกกาย
เอาไปไม่ได้ .......... ทิ้งไว้ทุกคน
สมบัติทั้งมวล .......... เรือกสวนไร่นา
ที่เจ้าอุตส่าห์ .......... ทำมาแต่ต้น
ใช่เป็นของเจ้า .......... จะเอาติดตน
มันไม่มีผล .......... ให้คนอื่นไป
เงินบาทหนึ่งนั้น .......... ลูกหลานใส่ปาก
สัปเหร่อยังควัก .......... ไม่อยากให้ใช้
เงินในธนาคาร .......... ลูกหลานเอาไป
ต่างแย่งแบ่งใช้ .......... หมดไปไม่นาน
มนุษย์เราเอ๋ย .......... อย่าหลงนักเลย
เป็นกรรมก่อเกย สังเวยสังขาร
จงรีบทำบุญ .......... คำจุนศีลทาน
มุ่งสู่นิพพาน .......... ด้วยกันทุกคน
มนุษย์เราเอย .......... เกิดมาทำไม
นิพพานมีสุข .......... อยู่ใยมิไป
ตัณหาหน่วงหนัก .......... หน่วงชักหน่วงไว้
ฉันไปมิได้ .......... ตัณหาผูกผัน
ห่วงนั้นพันผูก .......... ห่วงลูกห่วงหลาน
ห่วงทรัพย์สินศฤงคาร .......... จงสละเสียเถิด
จะได้ไปนิพพาน .......... ข้ามพ้นภพสาม
ยามหนุ่มสาวน้อย .......... หน้าตาแช่มช้อย
งามแล้วทุกประการ .......... แก่เฒ่าหนังยาน
แต่ล้วนเครื่องเหม็น .......... เอ็นใหญ่เก้าร้อย
เอ็นน้อยเก้าพัน .......... มันมาทำเข็ญใจ
ให้ร้อนให้เย็น .......... เมื่อยขบทั้งตัว
ขนคิ้วก็ขาว .......... นัยน์ตาก็มัว
เส้นผมบนหัว .......... ดำแล้วกลับหงอก
หน้าตาเว้าวอก .......... ดูหน้าบัดสี
จะลุกก็โอย .......... จะนั่งก็โอย
เหมือนดอกไม้โรย .......... ไม่มีเกสร
จะเข้าที่นอน .......... พึงสอนภาวนา
พระอนัจจัง .......... พระอนัตตา
เราท่านเกิดมา .......... รังแต่จะตาย
ผู้ดีเข็ญใจ .......... ก็ตายเหมือนกัน
เงินทองทั้งนั้น .......... มิติดตัวเรา
ตายไปเป็นผี .......... ลูกเมียผัวรัก
เขาชักหน้าหนี .......... เขาเหม็นซากผี
เปื่อยเน่าพุพอง .......... หมู่ญาติพี่น้อง
เขาหามเอาไป .......... เขาวางลงไว้
เขานั่งร้องไห้ .......... แล้วกลับคืนมา
อยู่แต่ผู้เดียว .......... ป่าไม้ชายเขียว
เหลียวไม่เห็นใคร .......... เห็นแต่ฝูงแร้ง
เห็นแต่ฝูงกา .......... เห็นแต่ฝูงหมา
ยื้อแย่งกันกิน .......... ดูน่าสมเพช
กระดูกกูเอ๋ย .......... เรี่ยรายแผ่นดิน
แร้งกาหมากิน .......... เอาเป็นอาหาร
เที่ยงคืนสงัด .......... ตื่นขึ้นมินาน
ไม่เห็นลูกหลาน .......... พี่น้องเผ่าพันธุ์
เห็นแต่นกเค้า .......... จับเจ่าเรียงกัน
เห็นแต่นกเสก .......... ร้องแรกแหกขวัญ
เห็นแต่ฝูงผี .......... ร้องไห้หากัน
มนุษย์เราเอ๋ย .......... อย่าหลงกันเลย
ไม่มีแก่นสาร .......... อุตสาห์ทำบุญ
ค้ำจุนเอาไว้ .......... จะได้ไปสวรรค์
จะได้ทันพระเจ้า .......... จะได้เข้าพระนิพพาน
อะหัง วันทามิ สัพพะโส นิพพานะปัจจะโย โหตุ
--------------------------------------------------------------------------------
บทปลงสังขาร (แบบสมัยใหม่)
มนุษย์เราเอ๋ย .......... เกิดมาทำไม
นิพพานมีสุข .......... หมดทุกข์มิไป
ตัณหาหน่วงหนัก .......... คอยชักหน่วงไว้
ฉันไปไม่ได้ .......... ตัณหาผูกพัน
ห่วงนั้นพันผูก .......... ห่วงลูกห่วงหลาน
ห่วงทรัพย์สินศฤงคาร .......... สละมันเถิด
ชีวิตประเสริฐ .......... หยุดเกิดนิพพาน
ข้ามพ้นสังขาร .......... ละสังขารไป
ยามเมื่อหนุ่มสาว .......... รูปเจ้าก็งาม
แก่ลงงุ่มง่าม .......... ไม่งามตรงไหน
เอ็นใหญ่เก้าร้อย .......... เอ็นน้อยเก้าพัน
ช่วยยึดสังขาร .......... ของท่านเอาไว้
หนาวมากร้อนมาก .......... ก็อยากจะตาย
ต้องกินต้องถ่าย .......... วุ่นวายทั้งวัน
ขนคิ้วก็ขาว .......... ตาเจ้าก็มัว
เส้นผมบนหัว .......... หงอกทั่วถึงกัน
จะลุกก็โอย .......... จะนั่งก็โอย
เหมือนดอกไม้โรย .......... โอดโอยสังขาร
พึงเร่งภาวนา .......... อย่าช้าเร็วพลัน
ให้เห็นสังขาร .......... เราท่านเกิดมา
เป็นอนิจจัง .......... ทุกขังอนัตตา
สร้างแต่ปัญหา .......... พาให้ทุกข์ทน
ชีวิตร่างกาย .......... ต้องตายเป็นผี
ลูกผัวที่มี .......... เขาหนีสับสน
เปื่อยเน่าพุพอง .......... พี่น้องทุกคน
เขาช่วยกันขน .......... ร่างตนเอาไป
พวกญาติพี่น้อง .......... หามล่องสู่เมรุ
ลำบากยากเข็ญ .......... ร่างเหม็นหนอนไช
ต้องถูกไฟไหม้ .......... ย่างบนกองฟอน
เป็นที่แน่นอน .......... เมื่อตอนเจ้าตาย
โลภโมโหสัน .......... ของฉันของแก
สิ่งใดไหนแน่ .......... เที่ยงแท้ไฉน
ทรัพย์สินเงินทอง .......... เป็นของนอกกาย
เอาไปไม่ได้ .......... ทิ้งไว้ทุกคน
สมบัติทั้งมวล .......... เรือกสวนไร่นา
ที่เจ้าอุตส่าห์ .......... ทำมาแต่ต้น
ใช่เป็นของเจ้า .......... จะเอาติดตน
มันไม่มีผล .......... ให้คนอื่นไป
เงินบาทหนึ่งนั้น .......... ลูกหลานใส่ปาก
สัปเหร่อยังควัก .......... ไม่อยากให้ใช้
เงินในธนาคาร .......... ลูกหลานเอาไป
ต่างแย่งแบ่งใช้ .......... หมดไปไม่นาน
มนุษย์เราเอ๋ย .......... อย่าหลงนักเลย
เป็นกรรมก่อเกย สังเวยสังขาร
จงรีบทำบุญ .......... คำจุนศีลทาน
มุ่งสู่นิพพาน .......... ด้วยกันทุกคน